คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพระเอกฮอตทุกวันนี้หลายคนมีพื้นฐานชื่อเสียงมากจากการเล่นซีรีส์ BOY’S LOVE เป็นส่วนมาก ด้วยความที่คอนเทนต์รูปแบบนี้เป็นคอนเทนต์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ใช่แค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่หลายๆ เรื่องยังส่งออกไปทำเงินมากมายจากต่างประเทศ
นำเม็ดเงินมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาในอุตสาหกรรมบันเทิงไทย อีกทั้งยังเป็นการนำพาประเทศไทยให้ชาวต่างชาติได้รู้จักมากขั้น จนกลายเป็น SOFT POWER ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การท่องเที่ยวต่างๆ
นักแสดงในกลุ่ม BOY’S LOVE ยังสามารถต่อยอดผลงานตามมาอีกมากมายซึ่งไม่ใช่แค่งานแสดงเพียงอย่างเดียว แต่ยังกระตุ้นให้เกิดความคึกคักทั้งในเรื่องของการตลาด ผ่านงานอีเวนต์ เปิดตัวสินค้า และกระตุ้นให้ตลาดของโชว์บิทมีเม็ดเงินที่สะพัดไม่น้อยหน้าการจัดคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องทั่วไป
เมื่อคอนเทนต์ BOY’S LOVE เป็นที่ต้องการมากขึ้น แน่นอนว่าก็ย่อมเป็นการเปิดโอกาสสร้างนักแสดงคลื่นลูกใหม่มาประดับวงการมากขึ้นเช่นกัน ตรงนี้ถือได้ว่าเป็นการรักษาระบบของอุตสาหกรรมบันเทิงให้มีการเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะคลื่นลูกใหม่เหล่านี้จะกลายเป็นนักแสดงที่มีศักยภาพในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน

ยกตัวอย่างสองนักแสดงชื่อดังอย่าง “มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์” และ “กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์” ที่แจ้งเกิดมาจากซีรีส์ BOY’S LOVE จนมีชื่อเสียงโด่งดัง ทุกวันนี้แม้ทั้งสองคนจะแยกย้ายกันไปเติบโตในแบบฉบับของตัวเอง แต่ถ้าเรามองลึกลงไป ไม่ว่าจะเป็น “มิว” หรือ “กลัฟ” ก็ยังคงทำหน้าที่ขับเคลื่อนวงการบันเทิงในแบบที่ตนเองถนัด
“มิว” มีผลงานการแสดงมากมายทั้งละคร ซีรีส์และภาพยนตร์ โดยผลงานรล่าสุดอย่าง “HOMEROOM 29 ตัวประกัน” เขาก็มารับบทนำโดยการเป็นครู หรือแม้แต่ผลงานรีเมคสุดอมตะ “มนต์รักลูกทุ่ง ๒๕๖๗”เขาก็มารับบทหนุ่มบ้านนอกอย่าง “คล้าว” ให้แฟนๆ ได้เห็นถึงการแสดงอีกรูปแบบ
นอกจากงานแสดงแล้วที่ผ่านมา “มิว” ก็ยังคงสร้างสรรค์ผลงานในฐานะศิลปินคนหนึ่งที่มีผลงานเพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกันอีกด้วย

เช่นเดียวกับ “กลัฟ” ที่กลายมาเป็นพระเอกแถวหน้าของช่อง 3 ที่มีทั้งงานแสดงและงานเพลง ต้องบอกว่าการมาอยู่ใต้ชายคาช่อง 3 ของ “กลัฟ” นั้น เขาไม่ได้อาศัยใช้ช่องใหญ่ในการสร้างชื่อเสียง แต่ตรงกันข้าม “กลัฟ” ได้นำแฟนคลับจำนวนมหาศาลมาช่วยซัพพอร์ตช่อง 3 ผ่านผลงานของพระเอกคนนี้
ในส่วนของภาพยนตร์ “กลัฟ” ก็มีโอกาสรันอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยที่ผ่านมาเขาได้มีผลงานเรื่อง “บัวผันฟันยับ” ภาพยนตร์ที่ช่อง 3 เป็นผู้ผลิตโดยมาประกบคู่กับ “แอน ทองประสม” และในปี 2569 พระเอกคนนี้ก็จะมีอีกหนึ่งภาพยนตร์เรื่อง “วันทอง” ที่แฟนๆ จะได้เห็นบท “ขุนช้าง” ในมิติใหม่ที่หลายคนไม่ควรพลาด
การเติบโตของนักแสดง BOY’S LOVE ไม่ได้มีแค่นักแสดงอิสระเท่านั้น เพราะนักแสดงในสังกัดที่มีบ้านใหญ่ เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็พร้อมที่จะก้าวข้าม Comfort Zone ที่มีคำว่า BOY’S LOVE มาตีกรอบ และมีผลงานทั่วๆ ไป ซึ่งแฟนๆ เองก็ยอมรับในความสามารถของนักแสดงโดยที่ไม่ติดภาพเดิม

หากนึกถึงบ้าน GMMTV เชื่อว่าภาพที่ชัดเจนก็คือ “วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” พระเอกที่ประกบคู่นางเอกดังมาไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” ในผลงานเรื่อง “หัวใจไม่มีปลอม”
แม้ว่า “วิน” จะแจ้งเกิดจากซีรีส์ BOY’S LOVE แต่ต้องบอกว่าทุกวันนี้เขาสามารถยืนหยัดในวงการบันเทิงด้วยฝีมือ และไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์รูปแบบไหน พระเอกคนนี้ก็เข้าถึงทุกบทบาท นำเสนอตัวละครออกมาจนผู้ชมเชื่อว่า “วิน” คือตัวละครนั้นจริงๆ
ขณะที่อดีตคู่พาร์ทเนอร์ของ “วิน” อย่าง “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่แจ้งเกิดจาก BOY’S LOVE แต่ทุกวันนี้เขาสามารถยืนหยัดในวงการได้อย่างสำเร็จโดยไม่ติดภาพการเป็นหนุ่ม BOY’S LOVEซึ่งผลงานภาพยนตร์เมื่อปีที่แล้วอย่าง “สินเชื่อ..รักแลกเงิน” (The Interest) ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีว่าการที่เขามาประกบคู่กับ “ญาญ่า-อุรัสยา สเปอร์บันด์” ทั้งคู่ก็สร้างเคมีได้อย่างลงตัว

ด้าน “มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง” ก็เป็นอีกคนที่ต้องบอกว่าเป็นนักแสดงที่ฉีกกรอบ BOY’S LOVE ได้โดยที่ไม่ติดภาพเดิม ซึ่งล่าสุดเขาได้มามอบเสียงหัวเราผ่านบทของ “พี่ชาย” ในซิตคอมอารมณ์ดีเรื่อง “Jet lag เจ๊ทแหลก” เพียงแค่ EP.แรก ก็ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทะลุ 17 ล้านวิวใน TikTok แฟนๆ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือความสำเร็จอีกหนึ่งบทบาทของ “มาย”
ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่ “มาย” ได้มาประกบคู่กับ “อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” คู่พาร์ทเนอร์ที่จูงมือกันแจ้งเกิดผ่านซีรีส์ BOY’S LOVE เรื่อง “คินน์พอร์ช” ทั้งคู่ได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่อง “แมนสรวง” ด้วยกันแม้จะไม่ใช่แนว BOY’S LOVE แต่ Friendship ของตัวละครในสถานเริงรมย์ “แมนสรวง” ก็ถ่ายทอดมิตรภาพของเพื่อนออกมาให้แฟนๆ ได้ฟินไม่แพ้ซีรีส์ BOY’S LOVE
นักแสดงมากฝีมืออีกหนึ่งคนที่ถึงแม้จะมีคอนเทนต์ BOY’S LOVE ให้ติดตามเป็นระยะ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องก้าวออกจาก Comfort Zone เขาก็ทิ้งภาพจำมารับบทบาทใหม่ได้ดี นั่นก็คือ “ต้าห์อู๋-พิทยา แซ่ฉั่ว”

ผลงานที่ทำให้แฟนๆ ได้เห็นว่า “ต้าห์อู๋” ไม่จำเป็นต้องยืนข้าง “ออฟโรด-กันตภณ จินดาทวีผล” เสมอไปอย่างภาพยนตร์เรื่อง “404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN” ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ต้าห์อู๋” ไม่จำเป็นต้องมีคู่ก็มอบความสุขให้ผู้ชมได้
ในวงการบันเทิงยังมีนักแสดง BOY’S LOVE อีกหลายคนที่ตอนนี้แม้จะหันหลังให้กับคอนเทนต์รูปแบบนี้ไปแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงมีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง แถมยังเป็นการแสดงที่ทำให้ให้เขาเติบโตในวการบันเทิงได้อย่างโดดเด่น ยืนหยัดในวงการด้วยศักยภาพของตัวเอง ผ่านผลงานการแสดงที่หลากหลาย ไม่ยึดติดกับภาพเดิมๆ
หากนักแสดง BOY’S LOVE คลื่นลูกใหม่สามารถทำได้แบบนักแสดงเหล่านี้ เชื่อว่าอนาคตในวงการบันเทิงคงเดินทางได้อีกยาวไกล ท่ามกลางบทบาทที่เหมาะสมและมีความท้าทายที่จะเข้ามาให้พิสูจน์ฝีมืออย่างไม่หยุดยั้ง ท่ามกลางการจับตามองและแรงสนับสนุนแฟนๆ ที่พร้อมจะซัพพอร์ตทุกผลงานไม่ว่าจะได้รับบทไหนก็ตาม

